รู้จักก่อนทำสวยด้วย โบท็อกซ์ (สุขภาพดี)
ทำความรู้จักกับโบท็อกซ์
สแกนโบท็อกซ์ศีรษะจรดปลายเท้า
- หน้าผาก รอยย่นบริเวณนี้มักเกิดจากการที่เรายักคิ้วขึ้น การฉีดจะต้องฉีดหลายจุด คือเห็นรอยตรงไหนก็ฉีดที่ตรงนั้นเลย ตรงนี้เป็นจุดที่ฉีดแล้วผลการรักษามักจะอยู่ได้ยาวนานกว่าส่วนอื่นๆ อาจจะประมาณ 8 เดือน เพราะในชีวิตประจำวันเราไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อตรงนี้มากนัก
- หว่างคิ้ว ฉีดเพื่อลดรอยย่นของคนที่ชอบขมวดคิ้ว เช่นคนที่เครียดนิดหน่อยก็ขมวดคิ้วก็จะเกิดริ้วรอยที่บริเวณนี้ได้ง่ายการฉีดจะประมาณ 3-5 จุด สำหรับกรณีคุณนัทตี้ที่ยกมาที่บอกว่าฉีดที่หว่างคิ้วแล้วทำให้ชั้นที่ตาหายไปหมอคิดว่าอาจเกิดเพราะเมื่อฉีดหว่างคิ้วมันจะทำให้คิ้วมีการยกตัวขึ้น ชั้นของหนังตาจึงถูกดึงขึ้นมาด้วย
- ตีนกา เวลาฉีดหมอจะให้คนไข้ยิ้ม แล้วพอเห็นรอยตีนกาตรงไหนเราก็ฉีดไปตรงนั้น ส่วนใหญ่ก็บริเวณหางตา ตรงนี้มักเป็นส่วนที่ยาหมดฤทธิ์และคนไข้ต้องมาฉีดใหม่เร็วที่สุด เพราะในชีวิตประจำวันเรามักจะยิ้ม กล้ามเนื้อส่วนนี้เลยต้องทำงานเยอะ
- ข้างจมูก ปีกจมูก สำหรับคนที่ปีกจมูกบานก็สามารถฉีดเพื่อให้ปีกจมูกลดลงได้ เพราะโดยหลักการแล้วการที่ปีกจมูกเราบานเป็นเพราะกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีการหดขยาย ซึ่งอาจจะดึงทำให้ปีกจมูกยกขึ้นและจมูกดูใหญ่ พอเราฉีดปีกจมูกกล้ามเนื้อนั้นทำงานน้อยลง มันก็จะไม่ยก ปีกจึงดูจมูกเล็ก โดยการฉีดเราจะฉีดข้างละ 1 จุด
- หน้าเรียว ฉีดข้างละประมาณ 5 จุด มีสองอย่างคือผู้หญิงที่กรามใหญ่ เราก็ไปฉีดตรงกรามเพื่อลดกล้ามเนื้อตรงส่วนนั้นให้เล็กลง รูปหน้าก็จะเรียวขึ้น ใบหน้าบริเวณขากรรไกรเรียวขึ้น ในการทำหมอจะให้คนไข้กัดฟัน แล้วกล้ามเนื้อบริเวณกรามก็จะขึ้นมาให้เห็นชัดเจน เราก็จะฉีดไปที่บริเวณนั้น ส่วนอีกอันคือการฉีดยกแก้ม ส่วนใหญ่คนที่มาฉีดวิธีนี้ก็คืออายุ 40 ปีไปแล้วที่มีการดึงของกล้ามเนื้อคอแล้วทำให้แก้มตกลงมา ทำให้ดูมีเนื้อเยอะ ใหญ่แก้มย้อย การฉีดก็เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ดึงแก้มนั้นทำงานน้อยลง โดยจะฉีดที่ขากรรไกรเลย
- คอ ฉีดข้างละประมาณ 5-10 จุด ซึ่งจะฉีดเท่าไหร่หมอจะเป็นผู้พิจารณา โดยจะฉีดมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะที่คอจะมีกล้ามเนื้อของการกลืน ถ้าฉีดมากหรือลึกเกินไปก็อาจทำให้คนไข้กลืนลำบาก ส่วนคนที่เข้ามาฉีดโบท็อกซ์ที่คอมักจะเป็นวัย 50 ปีไปแล้วที่เริ่มคอเป็นชั้นๆ ริ้วๆ และมีรอยเหี่ยวย่นที่คอ หมอก็จะให้คนไข้กัดฟันเพื่อให้เห็นลำของกล้ามเนื้อ แล้วก็ฉีดไปตามแนวรอยที่ขึ้น
- รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า(ลดเหงื่อ) ฉีดประมาณ 20 จุด ใช้สำหรับคนที่มีปัญหามีเหงื่อออกเยอะ และเกิดจากความผิดปกติของต่อมเหงื่อ เช่น อยู่เฉยๆ หรืออยู่ในห้องแอร์ก็มีเหงื่อ ซึ่งจะฉีดแค่ตื้นๆ ไม่ลึกเหมือนการฉีดริ้วรอย เป็นการฉีดเพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เพื่อไม่ให้ผลิตเหงื่อออกไปมาก
- น่อง ฉีดให้กับคนที่น่องโต ซึ่งการโตจะมี 2 ประเภท คือ โตเพราะอ้วน กับโตเพราะกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกซ์จะทำในกรณีที่โตเพราะกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเห็นกล้ามเนื้อขึ้นมาเป็นมัดๆ ในการฉีดลดน่องอาจต้องมาฉีดหลายครั้งหน่อย อาจจะ 3 เดือนมาฉีดสักครั้งหนึ่ง เพราะเราต้องเดินทุกวัน กล้ามเนื้อส่วนนี้ก็ต้องทำงานทั้งวันทุกวัน โดยเฉพาะสาวที่ใส่ส้นสูงยิ่งต้องใช้มาก
อย่าเอาแต่หวังพึ่งตัวช่วย ดูแลตัวเองสำคัญที่สุด
คุณนัทตี้ อาชีพ แอร์โฮสเตส อายุ 29 ปี
ดังนั้นจึงพยายามมองหาวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่อย่าง “โบท็อกซ์” มาช่วย บวกกับเพื่อนแนะนำให้ปรึกษาหมอคลินิกดังย่านรามคำแหงดู เพราะมีดาราที่มีชื่อเสียงมาใช้บริการค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังมีใบประกาศนียบัตรรับรองความน่าเชื่อถือ จึงลองตัดสินใจทำ ซึ่งตอนแรกทำเพื่อต้องการให้จำนวนชั้นของตาเป็นปกติ โดยคุณหมอจะฉีดโบท็อกซ์เข้าไปตรงหัวคิ้วประมาณ 2 เข็ม ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนเลยว่าฉีดเข้าไปแล้วในช่วงระยะแรกจะตึงมากจนกระพริบตาไม่ได้ แต่พอผ่านไปประมาณ 3-4 เดือน จะเริ่มเป็นปกติ แต่อายุของโบท็อกซ์นั้นจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือนเท่านั้น จึงทำให้ต้องมีการฉีดอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับเดือนกรกฎาคม 2552